เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 ศาลอาญากรุงเทพได้พิพากษาโทษจำคุก 89 ปี แก่อดีตข้าราชการ อัญชัญ ปรีเลิศ เนื่องจากอัปโหลดและเผยแพร่คลิปเสียงจำนวน 19 ชิ้นบนสื่อโซเชียลมีเดียจำนวน 29 ครั้ง ระหว่างวันที่ 12 พฤศจิกายน 2557 ถึงเดือนมกราคม 2558 โดยเจ้าหน้าที่พิจารณาว่าคลิปเสียงเหล่านั้นมีเนื้อหาหมิ่นประมาทต่อราชวงศ์ไทย ทั้งนี้ศาลได้ลดโทษจำคุกลงเหลือ 43 ปี 6 เดือนเนื่องจากเธอรับสารภาพ
มาตรา 112 ระบุโทษจำคุกแก่ผู้ที่หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ผู้ใดที่ละเมิดมาตรา 112 จะต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึง 15 ปี ในแต่ละกรรม
"โทษจำคุกสถานหนักของอัญชัญนั้นไม่ต่างอะไรกับคำพิพากษาลงโทษประหารชีวิตต่อการกระทำที่เป็นการใช้สิทธิในเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกอย่างสันติ รัฐบาลไทยต้องปล่อยตัวอัญชัญและยุติการใช้กฎหมายหมิ่นประมาทกษัตริย์ในทางที่ผิดโดยทันที"
FIDH และ TLHR เห็นว่าการดำเนินคดีและการลิดรอนเสรีภาพของอัญชันเป็นการละเมิดสิทธิในการพิจารณาคดีด้วยความยุติธรรมและสิทธิในเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออก ทั้งนี้ สิทธิข้างต้นได้รับการรับรองด้วยมาตรา 14 และมาตรา 19 แห่งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights ; ICCPR) ซึ่งประเทศไทยเป็นรัฐภาคี
"อัญชัญถูกดำเนินคดีภายใต้ศาลทหารด้วยกระบวนการทางกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม ทั้งเรื่องการควบคุมตัวเป็นเวลานานตั้งแต่ก่อนและระหว่างการพิจารณาคดีและโทษจำคุกสถานหนักแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน รัฐบาลไทยต้องแก้ไขความผิดที่ได้กระทำต่ออัญชัญและปล่อยตัวเธอโดยทันที"
อัญชัญถูกจับกุมเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2558 และถูกควบคุมตัวในค่ายทหารเป็นเวลาห้าวัน ในช่วงแรก คดี 112 ของอัญชัญอยู่ภายใต้การพิจารณาของศาลทหาร คำร้องยื่นขอประกันตัวของเธอถูกปฏิเสธซ้ำหลายครั้ง ทำให้เธอต้องถูกกักขังเป็นเวลาทั้งสิ้นสามปีกับ 281 วันก่อนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 คดีของเธออยู่ภายใต้ศาลทหารกรุงเทพจนกระทั่งเดือนกรกฎาคม 2562 เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งให้โอนย้ายการพิจารณาคดีความของพลเรือนที่อยู่ภายใต้ศาลทหารไปยังศาลพลเรือน
นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2555 คณะทำงาน WGAD พบว่าการลิดรอนเสรีภาพของบุคคลถึงแปดคนซึ่งที่ถูกควบคุมตัวด้วยมาตรา 112 นั้นถือเป็นการควบคุมตัว “โดยพลการ” พวกเขาได้รับการปล่อยตัวทั้งหมดในเวลาต่อมา ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา กลไกตรวจสอบสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติหลายภาคส่วนได้ย้ำข้อกังวลซ้ำหลายรอบต่อการบังคับใช้มาตรา 112 โดยทางสหประชาชาติได้กล่าวมาโดยเสมอว่ากฎหมายดังกล่าวไม่สอดคล้องกับกติกาสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และได้เรียกเรียกร้องให้มีการแก้ไขหรือยุติมาตรา 112 พร้อมทั้งปล่อยตัวจำเลยข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ทุกคน
FIDH และ TLHR ขอเรียกร้องให้ปล่อยตัวอัญชัญโดยทันทีและโดยไม่มีเงื่อนไข มาตรา 112 ต้องได้รับการแก้ไขเพื่อให้ประเทศไทยสอดคล้องกับพันธะหน้าที่ภายใต้กติกา ICCPR ของประเทศไทยและรัฐบาลไทยต้องละเว้นการจับกุม ดำเนินคดี และกักขังบุคคลใดก็ตามเพียงเพราะพวกเขาใช้สิทธิขั้นพื้นฐานในการพูดและแสดงออก
ติดต่อ
Ms. Eva Canan (English, French) : +33648059157